กินเปลี่ยนชีวิต กับ ปู-เอื้อมพร แสงสุวรรณ นักบำบัดโรคด้วยอาหารคนแรกของไทย

รู้ไหมว่าคนวัย 50+ ก็แข็งแรงได้นะ แค่เริ่มต้นจากคำถามว่า “กินอย่างไร” ไม่ใช่แค่ “กินอะไร” ที่เจาะจงไปที่จานอาหารอย่างเดียว CountUp ได้ผู้รู้อย่างคุณปู-เอื้อมพร แสงสุวรรณ NTP (Nutritional Therapy Practitioner) คนแรกของไทยหรือในภาษาไทยนักบำบัดโรคด้วยอาหาร จุดพลิกผันคือการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่ทำให้อดีตบรรณาธิการนิตยสารชีวจิตคนนี้ หันมาทุ่มเทใส่ใจเรื่องอาหาร จนถึงขั้นศึกษาเพิ่มเติมที่ประเทศออสเตรเลีย ก่อนนำความรู้กลับมาเพื่อต่อยอดไอเดียและแบ่งปันกับคนรักสุขภาพทุกคน และนี่คือ 8 ข้อที่คุณปูแนะนำให้โดยเฉพาะกับ CountUp 50+ อยากให้อ่านจนจบ แล้วจะรู้ว่าแค่กินให้ถูกก็เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้จริงๆ

ก่อนอื่นคุณปูชวนทำความเข้าใจวัย 50+ ว่าความจริงคนวัยนี้ยังไม่แก่ (จนกว่าจะถึงช่วงอายุ 70 ปี) แม้กระทั่งอยู่ในภาวะ Menopause (เมโนพอส) หรือในช่วงหมดประจำเดือน ก็ไม่มีผลต่อสุขภาพ ถ้าเราดูแลตัวเองดี มีร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งหนึ่งในหนทางสู่สูขภาพดีก็คือวิธีที่เรากิน

อย่าเพิ่งตั้งคำถามว่าป่วยเป็นโรคนี้แล้วต้องกินอะไรดี แต่ควรเริ่มจาก “กินอย่างไร” จึงจะดีที่สุด เพื่อเน้นการเปลี่ยนแปลง “พฤติกรรม” มากกว่า “ประเภท” ของอาหาร เช่น
• ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่จดจำว่าเราควรกินข้าวที่ไม่ขัดขาว เพราะเต็มไปด้วยแร่ธาตุวิตามิน แต่ก็ลืมเรื่องปริมาณที่สมดุล
• เราจำว่าน้ำตาลทรายแดงดีกว่าน้ำตาลทรายขาว เลยถือเป็นข้ออ้างกินขนมหวานที่ใช้น้ำตาลทรายแดง (ที่หวานสุดๆ)
• ผลไม้หลายชนิดมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็มีน้ำตาลสูง เช่น องุ่น มะม่วงสุก และสับปะรด เราจึงควรกินในปริมาณพอดี
กินให้ครบ ก็ไม่มีปัญหาสุขภาพมากวนใจ ฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็รู้ แต่การกินครบ 5 หมู่ ในวันยุ่งๆ ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะหนักไปที่คาร์โบไฮเดรต โปรตีนน้อย ขาดแร่ธาตุและวิตามิน แถมยังกลัวไขมันจนเกินไป ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา มาดูตัวอย่างกัน เช่น
• รู้หรือไม่ว่าร่างกายต้องการโปรตีนเป็นสารตั้งต้นเพื่อขับพิษ เมื่อขาดโปรตีน ขั้นตอนนี้จึงไม่สามารถ
ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
• คนที่เลือกกินแต่ผัก ไม่กินไขมันเลย อาจมีแนวโน้มอาการอักเสบในระยะยาว เพราะมีแค่ไขมันเท่านั้นที่ช่วยเยียวยา
-หลีกเลี่ยงอาหารผ่านการแปรรูป ที่รวมถึง “แป้งขาว” ที่มาจากเมล็ดข้าว “นํ้าตาล” ที่มาจากอ้อยหรือพืชชนิดอื่นๆ “แอลกอฮอล์” ที่มาจากข้าว ผลไม้ หรือ กากน้ำตาล เป็นต้น ที่แค่ “งด” ก็ดีต่อสุขภาพ
-ส่วนอาหารที่แนะนํา คือ อาหารประเภท “เรียลฟู้ด” (real food) ที่หมายถึง “อาหารไม่ผ่านการแปรรูป” เช่น ข้าวสวยที่หุงแล้วยังดูออกว่าเป็นเมล็ดข้าว ผักสลัดที่ผสมแล้วก็ยังเห็นเป็นก้านและใบผัก และปลาทูทอดที่ทอดแล้วยังเห็นเป็นชิ้นปลา

อย่ากลัวอาหารไปเสียหมด จนกลายเป็นขาดสารอาหารแบบไม่รู้ตัว เพราะเวลานี้เราสามารถรู้ข้อมูลของที่สิ่งที่เรากินได้ โดยเฉพาะแหล่งที่มา เช่น ผักจากไร่ออร์แกนิคไร้สารพิษ ที่จะทำให้เรากินผักอย่างสบายใจ ข้าวโพดไม่ตัดต่อพันธุกรรม (GMO) ที่จะทำให้เรารู้สึกปลอดภัย ได้ครบคุณค่าอาหาร (แต่ไม่ควรกินในปริมาณมาก) หรือ ไม่ต้องกลัวไขมันแล้วเลือกดื่มแต่นม Low Fat ที่เติมแป้งเข้าไปทดแทนไขมัน เพราะจะยิ่งทำให้เราได้รับคาร์โบไฮเดรตซ้ำๆ (จากที่หนักแป้งในแต่ละวัน) และทำให้ขาดไขมันในการดูแลระบบร่างกาย

เพราะระบบย่อยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงวัยที่อายุมากขึ้น ใครที่มีพฤติกรรมกินเร็ว เร่งรีบอยู่ตลอด ควรกลับมาให้ความสำคัญกับการเคี้ยวอาหาร ด้วยการเคี้ยวช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียดเพื่อแบ่งเบาภาระของระบบย่อย ซึ่งคุณปูที่ปกติปฏิบัติธรรมอยู่แล้วมองว่า ถือเป็นการเมตตา หรือ รัก ตัวเองในระดับเซลล์ ซึ่งเซลล์ในร่างกายจะต้องใช้เวลาดูดซึมสารอาหารไปใช้ แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะฉะนั้นรักตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเคี้ยวให้นาน

ของดองมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่เชื่อลองดูหลายประเทศอย่างญี่ปุ่น หรือ เกาหลีเหนือและใต้ ที่ผู้สูงวัยแข็งแรง เพราะมี “ของดี” ในมื้ออาหาร ซึ่งก็คือ “ผักดอง” อาหารกลุ่ม “โปรไบโอติกส์” (Probiotics) ที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยและพบได้ในอาหารหมัก ที่ได้แก่ กิมจิ ขิงดอง มิโสะ ไปจนถึง แตงกวาดองที่เข้าคู่กับสเต็กในวัฒนธรรมการกินอาหารฝรั่ง รวมถึงผักกาดดองในข้าวขาหมู เมนูแบบไทยๆ ซึ่งสิ่งที่ควรทำตอนนี้ คือ มาลืมความเชื่อแบบเก่าๆ ที่เราเคยท่องว่าของดองเป็นของไม่ดี ไม่ถูกสุขอนามัย เพราะยุคนี้เราสามารถเลือกกินอาหารประเภทดองที่มีคุณภาพดีได้ และถ้าอยากให้แน่ใจก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน แค่ลองเสิร์ชหาสูตรดู

ทั้งหมดนี้บอกเราว่าพฤติกรรมการกินเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราควรเริ่มจากขยันหัดวิเคราะห์อาหารแต่ละมื้อ ที่เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ คุณจะกินดีขึ้นและ “ครบ” ขึ้นเอง จากที่ป่วยบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เราไม่ค่อยป่วย แข็งแรงขึ้น จนมีสุขภาพดี แต่ก็อย่าลืมว่า การกินก็เป็นเรื่องรื่นรมย์ ไม่ต้องถึงกับเครียด ขอแค่เริ่มให้ความสำคัญและบาลานซ์ให้เป็น
 
ขอขอบคุณ : คุณปู-เอื้อมพร แสงสุวรรณ เพจ Sukina เพื่อสุขภาพ https://www.facebook.com/SukinaJSL/

Share this:

Scroll to Top