A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.
ไปเที่ยวกันเถอะ CountUp ชวนกันง่ายๆ แบบนี้เลย ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้านานหรือเดินทางไกลก็เที่ยวได้ กับการเที่ยวแบบ Staycation (Stay + Vacation) เทรนด์การเที่ยวแบบใหม่มาแรง ที่ชวนให้เราลอง เที่ยวเมืองที่เราอยู่นี่ล่ะ เปลี่ยนบรรยากาศมองกรุงเทพฯ ในมุมใหม่ เช็คอินในห้องพัก 3 สไตล์จาก 3 โรงแรมดีไซน์สวยเวอร์ ที่แฝงด้วยเรื่องราว และประวัติศาสตร์ ไม่เพียงเท่านั้นเรายังมีของแถมเป็นลิสต์ร้านอาหาร บวกด้วยสถานที่เที่ยวรอบๆ โรงแรม บอกเลยว่าแค่เก็บกระเป๋าออกจากบ้าน เละเปลี่ยนที่นอนสักหนึ่งคืนก็สนุกได้ไม่แพ้ทริปยาวๆ
Stay: บ้าน 2459 เยาวราชอาคารสีเหลืองโคโลเนียลลูกผสมระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและโปรตุเกสที่ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบใจกลางเยาวราชหลังนี้ คือมรดกตกทอดของ “ตระกูลวทานยกุล” ที่นับอายุย้อนไปได้ถึงแผ่นดินรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 6 โดยชื่อ 2459 คือปีพุทธศักราชที่บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้น และเมื่อนำมาปรับเป็นโรงแรมที่นี่จึงเปิดเป็นห้องพักเพียง 4 ห้อง โดยใช้สัญลักษณ์เลขไทย ๒ , ๔ , ๕ และ ๙ เป็นเครื่องหมายความโดดเด่นของที่นี่คือการอนุรักษ์ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างบ้าน เฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง เตียง และข้าวของเมื่อร้อยปีไว้อย่างครบถ้วน เพียงเปิดประตูเข้าไปก็รู้สึกเหมือนนางเอกทวิภพกำลังเดินทะลุกระจกย้อนอดีต ชวนเพื่อนวัยเด็กมานอนเม้าท์กัน หรือจัด reunion จองทั้ง 4 ห้องเลยน่าจะดี
ไฮไลต์คือห้องหมายเลข ๒ ซึ่งมีบันไดทางเข้าส่วนตัว จึงได้ชื่อว่าเป็นห้องที่มีความส่วนตัวมากที่สุด ออกแบบโดยใช้โทนสีเขียวอ่อนสลับกับไม้สีเข้มให้ความอบอุ่น อีกทั้งเพดานยังมีภาพเขียนปูนเปียกอายุนับร้อยปีที่ทางโรงแรมอนุรักษ์ไว้ ส่วนห้องหมายเลข ๕ คือห้องสวีท คงความโปร่งของเพดานแบบเดิม มีวิวสวนเขียวอยู่เบื้องหน้า และที่จะพลาดไม่ได้คืออาหารเช้าของโรงแรมที่นำเมนูเด็ดเยาวราชมาให้ได้ลิ้มรสกันและที่สวยไม่แพ้บรรยากาศของโรงแรมคือร้านกาแฟเรือนกระจก Chata Specialty Coffee ที่ซ่อนอยู่ในสวนหลังบ้าน ที่นี่นอกจากเค้กจะอร่อยแล้วก็ยังมีกาแฟดีๆ จากทั่วโลกหมุนเวียนมาให้ได้ลิ้มลอง (โทรศัพท์ 08-2393-2459 เว็บไซด์ www.baan2459.com เฟสบุค www.facebook.com/baan2459/)
Vacation: เยาวราชยั่วๆเจอกาแฟสมัยใหม่ในโรงแรมแล้ว ด้านหน้าโรงแรมยังคงมีร้านกาแฟโบราณ “เอ็กเต็งผู่กี่” เปิดบริการอยู่ เมนูที่นี่มีแค่ชากาแฟ ขนมปังสังขยาง่ายๆ แต่ที่มากกว่าคือบรรยากาศความคลาสสิคของสมาคมกาแฟเล็กๆ ที่ชาวจีนรุ่นเก๋าในย่านนี้จะมาพบปะกัน ไม่ไกลกับโรงแรมคือ วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งอยู่คู่เยาวราชมาร่วม 150 ปี ที่นี่ประดิษฐาน “ไท้ส่วยเอี๊ย”ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองชะตา ตอนปีใหม่และตรุษจีนหลายคนนิยมมาไหว้ขอพรท่านให้คุ้มครองและเป็นการแก้ชงประจำปี ไม่ไกลกันคือ วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร หรือที่คนย่านนี้เรียกวัดหลวงพ่อทองคำ ซึ่งนอกจากจะประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติการสร้างหลวงพ่อทองคำและวิถีชาวจีนเยาวราชที่ทันสมัยมากๆ
ย้ายที่นอนมาใจกลางเยาวราชทั้งทีก็ต้องตะลุยเที่ยวกลางคืนที่เยาวราชกันสักนิด ถนนเส้นนี้ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟนีออนของป้ายร้านต่างๆ ส่วนร้านในตำนานก็ยังเปิดขายกันอย่างพร้อมหน้า เริ่มจากยามเย็นที่ข้าวแกงเจ๊กปุ้ย ข้างวัดมังกรซึ่งไม่เคยมีโต๊ะมีแต่เก้าอี้เรียงริมฟุตบาทให้ลูกค้านั่งมาตลอด 70 ปี ขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มใน ข้าวต้มปลาเตาถ่านเซี่ยงกี่ที่เปิดมานานถึง 90 ปี หรือจะเป็นก๋วยจั๊บใต้โรงหนังเก่า ร้านอาหารจีนแต้จิ๋วหนึ่งเดียวในย่านนี้ก็ยังเปิดบริการ
Stay: อำแดง The most romantic hotel in Bangkokโรงแรมสีแดงชาดที่ตั้งอยู่ริมเจ้าพระยาในย่านเก่าแก่ท่าดินแดง และมี “อำแดงคลี่” ซึ่งเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินเก่าแก่ที่ย้อนประวัติศาสตร์ไปได้ถึงสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งนี้ แม้ด้านนอกโรงแรมจะถูกออกแบบให้ดูโมเดิร์น แต่การตกแต่งในห้องพักนั้นใส่กลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานด้วยความคลาสสิคของยุคโคโลเนียลไว้ทุกกระเบียด แค่เดินเข้ามาก้าวแรกก็สัมผัสได้กับความโรแมนติก สมกับสโลแกน The most romantic hotel in Bangkok ที่มีความ hidden หน่อยๆ ตั้งแต่ทำเลที่ตั้งที่รายล้อมด้วยตรอกซอกซอย ตึกทรงปูน 5 ชั้น ต้นโพธิ์ยืนเด่นเป็นฉากหลัง และระเบียงเล็กๆที่ยื่นไปในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงห้องพักที่สวยและเซ็กซี่สุดๆ เหมาะที่สุดแล้วกับการหนีลูกมารำลึกความหลังตอนจีบกันใหม่ๆ
ที่สุดอีกอย่างคือห้องอาหารของโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมน้ำ เสิร์ฟเซ็ตอาหารไทยรสไทยแท้ เช่น ยำเป็ดฉีกกระทงทอง แกงรัญจวน แกงส้มไหลบัว ไก่คั่วดอกเกลือ มะกรูดลอยแก้ว เป็นต้น นอกจากร้านอาหารริมน้ำแล้ว ใครสนใจชมพระอาทิตย์ตกดินริมน้ำยังมีบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่มองเห็นเจ้าพระยาแบบ 360 องศา (โทรศัพท์ 0-2162-0138 เว็บไซด์ www.amdaeng.com เฟสบุค https://www.facebook.com/AMDAENG-Bangkok-riverside-hotel-140766939908638/)
Vacation: หลงล้ง 1919“ล้ง 1919” ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมมาก ชนิดเที่ยวจนล้งปิดค่อยกลับไปนอนก็ยังได้ ที่นี่คือคอมมิวนิตี้ที่นำประวัติศาสตร์ของท่าเรือกลไฟขนาด 6 ไร่ “ฮวง จุ่ง ล้ง” มาเล่าใหม่ในอาคารแบบจีนรุ่นบุกเบิกที่ยังคงความสมบูรณ์ของอาคารไว้อย่างครบถ้วน เข้ามาที่นี่แล้วทำให้อดคิดไม่ได้ว่าริมเจ้าพระยาในรัชกาลที่ 4 นั้นจะคึกคักเพียงใด หลังจากยุครุ่งเรืองของท่าเรือ “ฮวง จุ่ง ล้ง” ก็ปรับมาเป็นคลังสินค้า ปัจจุบันที่นี่มีทั้งงานศิลปะ อาหาร ร้านชอปปิง รวมทั้งเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ซึ่งมีมาตั้งแต่แผ่นดินรัชกาลที่ 4 ที่นี่ประดิษฐาน เจ้าแม่หม่าโจ้ว ครบทั้ง 3 ปาง คือ ปางเด็กสาว ให้พรเรื่องความรัก การมีบุตร และการเดินทางที่ราบรื่น ปางผู้ใหญ่ ให้พรด้านโชคลาภ เงินทอง การทำมาค้าขาย และปางเทพ ให้พรเรื่องสุขภาพที่แข็งแรง ครอบครัวอบอุ่น และรักษาทรัพย์ให้ลูกหลาน
Stay: เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อกเทเวศน์ยังคงเป็นย่านเก่าที่ที่เสน่ห์อยู่เสมอ และเสน่ห์ของค่ำคืนนี้อยู่ที่ เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก โรงแรมปรับปรุงมาจากเรือนไม้เก่าในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของวังเทเวศร์มาก่อน ความร่มรื่นของโรงแรมที่เต็มไปด้วยต้นไม่ใหญ่ทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ ที่เคยรู้จัก แต่เป็นกรุงเทพฯ ที่เงียบสงบมากๆ และนอกจากห้องพักในเรือนไม้ที่ยังคงสถาปัตยกรรมเมื่อร้อยปีก่อนไว้แล้ว อีกสิ่งที่ชอบคือสปา Imperial ที่นำเทคนิคการนวดไทยจากสถาบันสุขภาพโพธาลัยมาผสมผสานจนกลายเป็นการนวดผ่อนคลายที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ใครขี้เมื่อยเรียนเชิญป้ายนี้
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่นี่ยังมีห้องอาหารไทย เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง ร้านอาหารรสมือพระนมทัต ซึ่งเป็นพระนมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 มาให้เราได้ชิมในแบบต้นตำรับ ทั้งขนมจีนซาวน้ำ น้ำพริกลงเรือ ขนมเหนียว ม้าฮ่อ หมี่กรอบ บอกเลยว่าแต่ละเมนูหากินไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ (โทรศัพท์ 0-2628-5999 เว็บไซด์ www.raweekanlaya.com เฟสบุค www.facebook.com/RaweekanlayaHotel)
Vacation: ของดีเทเวศร์เทเวศร์ถือได้ว่าเป็นย่านของนักกินตัวยง เริ่มจากท่าเรือซึ่งมีร้านเก่าแก่ “กุ๊กชม” ซึ่งมีฉายาว่าอร่อยติดดาวในราคาติดดิน ที่นี่มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งปรุงโดยกุ๊กชมที่เคยทำงานอยู่ในโรงแรมดังมากว่า 30 ปี จากร้านกุ๊กชมเดินไปไม่ไกลคือ ตลาดเทวราช หรือหลายคนเรียกตลาดเทเวศน์ ซึ่งเป็นตลาดสดที่อาหารทะเลสดมาก ผักพื้นบ้านมีให้เลือกเพียบ เดินมาด้านหน้าตลาดไปทางฝั่งซ้ายขวาก็มีร้านอาหารรุ่นเก๋าเปิดอยู่มากมาย ไม่ว่จะเป็นชิฟฟ่อนเบเกอรี่ที่ขายชิฟฟอนใบเตยเจ้าแรกในไทย ข้าวเหนียวมูนลูกสาว ก.พานิช ผัดไทยเทวศร์ ข้าวต้มเชี่ยวชาญพานิช เป็นต้น นอกจากของกินแล้วอีกพิกัดที่ต้องไม่พลาดเลยคือ วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ไม้สักทองที่ซ่อนหุ่นขี้ผึ้งเท่าองค์จริงของสมเด็จพระสังฆราชในแผ่นดินรัตนโกสินทร์ไว้ด้านใน และไม่ไกลกันมากนักคือ วัดราชาธิวาส ซึ่งเป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 ได้ก่อตั้งธรรมยุตินิกายขึ้น และที่ต้องชมคือภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนสีปูนเปือยแบบฝรั่งแต่เล่าเรื่องพุทธประวัติ ดังนั้นภาพของพระพุทธเจ้าในวัดแห่งนี้จึงมีกล้ามเนื้อแบบมนุษย์ต่างไปจากงานจิตรกรรมไทยประเพณีแบบเก่าอย่างสิ้นเชิง
Share this:
เรื่องล่าสุด
หมวดหมู่