เมืองท่องเที่ยวอย่างไทยมีหลายสถานที่ซึ่งเป็นที่สุด เพียงเลือกไปให้ถูกจังหวะเวลาก็จะได้ประสบการณ์ชวนทึ่ง จนต้องตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ต้องเดินทางไกล เมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งน่าไปเช็คอินอีกเยอะ 50 อย่างเราไม่ไปได้ไง


ที่สุดของแหล่งดูนกในเอเชีย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี
บางทีอยู่ในเมืองวุ่นวายมากๆ แอบมาหลบไปเข้าป่าเลี่ยงความอึกทึก ฟังเสียงธรรมชาติกันบ้างก็ดีเหมือนกัน เพราะภายในพื้นที่เกือบ 2 ล้านไร่ของอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ แก่งกระจานเป็นศูนย์รวมความหลากหลายทางชีวภาพและแหล่งพันธุกรรมพืชและสัตว์ป่าที่สำคัญ แถมยังเป็นแหล่งดูนกอันดับต้น ๆ ของเอเชีย สำรวจพบนกราวๆ 500 ชนิด รวมถึงนกซึ่งอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เช่น นกกระเต็นแถบอกดำ นกขมิ้นขาว นกเงือกกรามช้างปากเรียบ นกเค้าหน้าผาขาว ฯลฯ ใครอยากไปก็เช็คก่อนเพราะเวลาเหมาะสมสำหรับการดูนกในแต่ละฤดูก็เห็นนกแตกต่างกันไป เช่น ต.ค. – ก.พ. เป็นเวลาของนกอพยพหนีหนาว การดูนกที่แก่งกระจานสักครั้งทำให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติและช่วยเพิ่มทักษะช่างสังเกตละเอียดรอบคอบ หูไว ตาไวด้วยนะ
ภาพ: FB: อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน – Kaeng Krachan National Park


เกาะจิ๋วที่สุดในไทย แต่แนวปะการังสมบูรณ์ที่สุดของทะเลฝั่งอ่าวไทย เกาะโลซิน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
ใคร ๆ ก็มีสิทธิ์สงสัยว่านี่เป็นเกาะที่เล็กที่สุดในประเทศไทยหรือแค่กองหินกันแน่ ? เมื่อเห็นแค่พื้นที่ขนาดจิ๋วซึ่งโผล่พ้นผิวน้ำ แต่ถ้าได้ดำดิ่งลึกลงไปในทะเล ความยิ่งใหญ่ของโลซินจะปรากฏในรูปของแนวปะการังมโหฬารตระการตาครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ อาจเรียกได้ว่าเป็นแนวปะการังที่สมบูรณ์ที่สุดของทะเลฝั่งอ่าวไทย ในวันที่ทัศนวิสัยดี ๆ น้ำทะเลใส ๆ สามารถมองรอบตัวได้ไกลถึง 25 เมตร พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสัตว์และพืชทะเลอื่น ๆ มากมาย ถ้าแต้มบุญถึงก็จะได้เจอกับยักษ์ใหญ่ใจดีคือ ฉลามวาฬ ปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสถานะใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งกระเบนราหูที่หายาก
เกาะโลซินเป็นภูเขาหินปูนใต้น้ำอยู่ห่างจากชายฝั่งปัตตานี 72 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเรือราว 7-8.5 ชม. หรือถ้ามาจากสงขลาใช้เวลาราว 10 ชั่วโมง ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.ย. ของทุกปี จะมีนักดำน้ำจากทั่วโลกเดินทางมาพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้
… ไปเรียนดำน้ำตอนนี้ทันมั้ย ?


มหัศจรรย์หนึ่งเดียวของไทย หาดทรายดำ อ. แหลมงอบ จ. ตราด
สักครั้งคงดีเยี่ยมถ้าให้เท้าเปลือยเปล่าของเราได้เหยียบย่างไปบนผืนทราย ปลดปล่อยความเครียดจากชีวิตประจำวันไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ กับชายหาดระยะทางราว 2 กม. ระหว่างรอยต่อทะเลแหลมงอบกับป่าชายเลนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบ้านแหลมมะขาม เป็นหาดทรายสีดำเพียงหนึ่งเดียวในไทย และมีอยู่ 5 แห่งของโลก เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพบำบัด มีทางเดินเพื่อศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน นั่งพักผ่อนหย่อนใจสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือทำสปาทรายดำซึ่งเกิดจากการผุกร่อนของหินผสมแร่เหล็กและเปลือกหอย
หาดทรายดำสุดอะเมซิ่งเปิดให้เข้าไปสัมผัสได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ควรตรวจสอบเวลาน้ำขึ้นน้ำลงก่อน หากต้องการชมหิ่งห้อยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนที่ 08-9605-1614 และ 08-9939-7373


ชมวิวจากกระเช้าลอยฟ้า แรกสุดในสยาม หาดใหญ่เคเบิ้ลคาร์ จ.สงขลา
ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ ที่สงขลาก็มี ! หาดใหญ่เคเบิ้ลคาร์ เป็นกระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของไทย ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เคเบิ้ลคาร์ขนาดบรรจุ 8 คนจะพาผู้โดยสารลอยละล่องชมทัศนียภาพอันสวยงามของตัวเมืองหาดใหญ่และทะเลสาบสงขลา ในระยะทาง 525 เมตร โดย 1 รอบใช้เวลาราว 2.30 นาที ทั้งยังสามารถแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคอหงส์ และมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ฯลฯ ไว้บริการด้วย
หาดใหญ่เคเบิ้ลคาร์ เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-16.00 น. และ ศุกร์-อาทิตย์ 09.00-17.30 น. งดให้บริการในวันฝนตกหรือลมกรรโชกแรง ค่าบริการผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
กระเช้าอาจจะสูง ใจก็เลยหวิว ๆ หน่อย แต่ก็คุ้มค่ากับวิวกว้างไกลสุดสายตาอันงดงาม


สวยขาสั่น สกายวอล์คกระจกใสริมโขง วัดผาตากเสื้อ ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย
ทุกย่างก้าวบนสกายวอล์คกระจกใส อาจทำให้ขาสั่นและอะดรีนาลีน 50+ พุ่งกระฉูด แต่ด้วยวิวหลักล้านของริมแม่น้ำโขงซึ่งมองเห็นทั้งฝั่งไทยและลาวนั้นสวยงามจนทำให้ลืมความหวาดเสียวไปได้ ยิ่งถ้าโชคดีไปในวันที่มีหมอก พื้นที่ตรงนั้นก็ราวกับเป็นสรวงสวรรค์ สกายวอล์คกระจกใสแห่งแรกในไทย ยื่นออกจากหน้าผาประมาณ 6 เมตร ความยาวประมาณ 16 เมตร สามารถเดินถ่ายรูปชมวิวได้ครั้งละ 20 คน (ห้ามคนเมาหรือป่วยลมชักขึ้น) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น. วันหยุดโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลบั้งไฟพญานาค นักท่องเที่ยวหนาแน่นเป็นพิเศษจนเป็นเหตุให้รถติดยาว ๆ ได้
ถ้าดูแล้วว่ายังไหวกับความสูงความใสขนาดนี้ก็ … ไปกัน


นาขั้นบันได สวรรค์บนดิน บ้านป่าบงเปียง อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่
บางคนอาจจะดั้นด้นเดินทางไปถึงต่างประเทศเพื่อชมนาขั้นบันได โดยที่ไม่เคยรู้ว่า มีนาขั้นบันใดสวยระดับโลกอยู่ในภาคเหนือของไทยนี่เองที่ป่าบงเปียงอยู่ระหว่างทางไปดอยอินทนนท์ หมู่บ้านนี้มีวิวท้องนาเขียวขจีแบบพาโนรามาให้ได้ชมในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือน ส.ค. – ต.ค. ก่อนข้าวจะสุกเป็นรวงเหลืองทองในราวเดือน พ.ย.
ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตสงบเรียบง่าย ป่าบงเปียงมีที่พักแบบโฮมสเตย์จำนวนไม่เยอะนัก จึงควรจองเสียแต่เนิ่น ๆ ถนนหนทางอาจจะไม่สะดวก ภายในหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา อาจต้องเดินเป็นกิโล ๆ เพื่อได้สัมผัสกับนาขั้นบันไดแบบใกล้ชิด แต่เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ท้าทายเพื่อแลกกับความฟินระดับสูงสุด
ครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ไปไม่ได้แล้ว