A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.
นอกจากซีอานจะมีสุสานจิ๋นซีที่ยิ่งใหญ่แล้ว ใกล้ๆ ไทยที่เมือง “เว้ (Hue)” ประเทศเวียดนาม ก็มีมรดกโลกเป็นสุสานแห่งจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน CountUp พาเที่ยวเมืองเว้ ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคกลางของประเทศเวียดนามที่ไม่ไกลจากเมืองท่องเที่ยวชื่อดังอย่างฮอยอัน ที่สำคัญเว้เป็นราชธานีสุดท้ายก่อนที่ระบบกษัตริย์จะล่มสลาย ที่นี่จึงยังคงร่องรอยของวังและสุสานจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่มากๆ จากไทยสามารถนั่งรถบัสข้ามประเทศจากจังหวัดมุกดาหารไปที่เมืองสะหวันนะเขตของลาว และต่อรถไปที่เมืองเว้ได้เลย แถมคนไทยไม่ต้องทำวีซ่าก็เข้าไปเที่ยวได้หรือจะให้สบายยิ่งกว่าก็บินตรงจากไทยไปเมืองดานังและซื้อทัวร์ไปเมืองเว้สักหนึ่งวัน หนึ่งคืนก็สะดวกมาก พร้อมแล้วตามไปกิน เที่ยว เยี่ยมชมเมืองเว้ได้เลย
เว้เป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากจีนมาพอสมควร ในพระราชวังเว้ที่มีตำหนักต่างๆ กระจายอยู่หลังกำแพงยาว 10 กิโลเมตรนั้นได้มีการจำลองพระราชวังต้องห้ามที่ถอดแบบมาจากพระราชวังต้องห้ามแห่งปักกิ่งมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นการเที่ยววังเก่าของกษัตริย์เว้ที่เรียกว่า “นครจักรพรรดิ” จึงเป็นโปรแกรมแรกที่ห้ามพลาด นอกจากตำหนักที่ผสมระหว่างสถาปัตยกรรมเวียดนาม และจีนแล้ว ทีนี่ยังมีวัดหลวง โรงละครหลวงที่ยังคงมีการแสดงให้ได้ชมอยู่ตลอด อีกไฮไลต์คือบัลลังก์ทองคำจำลองตั้งไว้ให้นักท่องเที่ยวได้แต่งตัวย้อนยุคแบบจักรพรรดิด้วย
ที่เว้มีสุสานของจักรพรรดิกระจายอยู่ทั่วเมือง แต่ละสุสานมีขนาดใหญ่คล้ายเมืองจำลองเมืองหนึ่งแต่ไม่ได้ถูกฝังอยู่ใต้ดินอย่างสุสานของจักรพรรดิจิ๋นซี สำหรับสุสานสำคัญ ได้แก่ สุสานพระเจ้าตื๋อ ดึ๊ก จักรพรรดิพระองค์ที่ 4 ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดถึง 36 ปี รูปแบบของสุสานเป็นการพระราชวังขนาดย่อมขึ้นมา มีทะเลสาบ สวนขนาดใหญ่ ตำหนัก พลับพลาต่างๆ รวมทั้งโรงละครหลวงและวัดอยู่บริเวณสุสาน
ต่อมาคือ สุสานจักรพรรดิมิน หมั่ง สุสานแห่งนี้มีค่อนข้างเรียบง่าย เน้นความงามของธรรมชาติตามแนวทางลัทธิขงจื๊อที่จักรพรรดิมิน หมั่งทรงนับถือ สุสานแห่งนี้มีลานกว้างที่งเรียงรายด้วยรูปปั้นหินสลักเหล่าขุนนางขนาดเท่าตัวจริง
ส่วนสุสานที่สร้างอย่างอลังการที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ สุสานจักรพรรดิขาย ดิ่น จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายที่ได้ฝังพระศพในสุสานหลวงอันยิ่งใหญ่ สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาต้องเดินขึ้นบันได 130 ขั้นผ่านรูปสลักขุนนางไปจึงจะถึงตัวสุสาน ว่ากันว่านี่เป็นสุสานหลวงแห่งเดียวที่มีการผสมผสานศิลปะตะวันตก มาที่นี่แล้วก็ห้ามพลาดตามหาภาพเขียน “มังกรในม่านเมฆ” ที่อยู่ด้านบนเพดาน มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันว่า ศิลปินผู้วาดนั้นใช้เท้าเขียนภาพแทนมือเพื่อกระทบกระเทียบความฟู่ฟ่าของระบอบกษัตริย์เมืองเว้
มาถึงเวียดนามทั้งที ก็ต้องจัดตารางแวะกินอาหารเวียดนามต้นตำรับที่รสชาติ วิธีการกิน และหน้าตาต่างจากที่เมืองไทยอย่างแน่นอน ที่สำคัญเป็นอาหารเวียดนามตำรับเว้ ที่นับว่ากลมกล่อมถูกปากชาวไทยที่สุดแล้วในบรรดาอาหารทุกภาค ร้านแนะนำ ได้แก่ ก๊วนบ่าด๋อ (Quan Ba Do) ต้องลอง คือ บั๊นแบ่ว หน้าตาเหมือนขนมถ้วยเล็กๆ ความลับคือทางร้านจะนึ่งแป้งสดใหม่ทุกครั้งที่ลูกค้าสั่ง ต่อมาคือ ขนมเบื้องญวน หรือ บั๊นควาย ทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ใส่ไส้กุ้ง หมูยอ และถั่วงอก ที่สุดของที่สุดต้องยกให้ แหนมเนือง หรือ แหนมหลุ่ย ร้านนี้ใช้เนื้อหมูเหนียวนุ่มมาปั้นเป็นก้อนเสียบก้านตะไคร้เพิ่มความหอมเวลากินให้นำหมูมาห่อกับแผ่นแป้งที่บางกรอบเหมือนกระดาษ ไม่ต้องแช่น้ำให้นิ่มเหมือนแหนมเนืองเมืองไทย ใครพลาดเมนูนี้ถือว่ามาไม่ถึงเมืองเว้เลยทีเดียว
ระหว่างทางไปสุสานจักรพรรดิ จะเจอกับหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านแทบทุกบ้านจะออกมานั่งทำธูปหลากสีสันโชว์นักท่องเที่ยว เหตุที่หมู่บ้านนี้ทำธูปน่ามาจากเหตุที่ชาวเวียดนามต้องแวะซื้อธูปไปไหว้สักการะสุสานจักรพรรดิและวัดต่างๆ แต่ธูปของหมู่บ้านนี้แตกต่างจากธูปทั่วไปตรงที่ผสมกลิ่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นอบเชย ตะไคร้ กุหลาบ ในวันที่แดดดี ชาวบ้านจะนำธูปออกมาตากแดดเหมือนทุ่งดอกไม้เลย
ช็อปปิ้งเว้ก็มีตลาดดงบาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ครบทั้งอาหาร กาแฟ เครื่องกรองกาแฟ ผลไม้อบแห้ง ชา เสื้อผ้า และของที่ระลึกทุกประเภท ของฝากชิ้นเด็ดคือ กาแฟเวียดนาม และหมวกเวียดนาม ซึ่งมีดีไซน์พิเศษที่เรียกว่า น้อนล้าบ่ายเถอ (Non La Bai Tho) มองด้านนอกไม่ต่างจากหมวกทรงเวียดนามทั่วไป แต่เมื่อส่องไฟจะมีบทกวี รวมทั้งภาพต่าง ๆ ปรากฏขึ้นจากการสอดกระดาษที่ฉลุเป็นรูปต่าง ๆ ไว้ตรงกลาง
Share this:
เรื่องล่าสุด
หมวดหมู่